มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงครบรอบ 27 ปี ผลิตบัณฑิตกว่า 40,000 คน สู่การเป็น "พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง"

หมวดหมู่ข่าว: ข่าวเด่น

มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงเฉลิมฉลองครบรอบ 27 ปีแห่งการก่อตั้ง โดยยืนยันบทบาทสำคัญในการเป็น "พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง" ภายใต้วิสัยทัศน์ "Driving Force for well-being and sustainable future" ที่ขับเคลื่อนสังคมไทยและภูมิภาคสู่ความเป็นอยู่ที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืน
.
โดยมี ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วันชัย ศิริชนะ อธิการบดีผู้ก่อตั้งเป็นนายกสภามหาวิทยาลัย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.มัชฌิมา นราดิศร เป็นอธิการบดี 
.
มหาวิทยาลัยแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 25 กันยายน 2541 เพื่อตอบสนองความต้องการของชาวเชียงรายในการมีสถาบันอุดมศึกษาที่ยกระดับคุณภาพชีวิต เศรษฐกิจ และสังคมของภูมิภาค ปัจจุบันได้เติบโตเป็นมากกว่าสถาบันการศึกษาทั่วไป กลายเป็น "พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง" ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงใน 4 มิติ ชีวิตคน พื้นที่ ความรู้ และโลก
.
ผลิตบัณฑิตคุณภาพสู่เวทีโลก 
.
ตลอดระยะเวลา 27 ปี มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงได้ผลิตบัณฑิตสะสมทั้งสิ้น 45,298 คน ที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในด้านทักษะแห่งอนาคต ได้แก่ การคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา ความคิดสร้างสรรค์ การทำงานเป็นทีม ความรู้เทคโนโลยีดิจิทัล และภาวะผู้นำและจิตอาสา
.
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงไม่ใช่แค่ของคนไทย แต่เป็นของโลก ปัจจุบันมีนักศึกษาทั้งหมด 15,534 คน เป็นนักศึกษาต่างชาติ 1,709 คน จาก 6 ทวีป สะท้อนความเป็นนานาชาติและความหลากหลายทางวัฒนธรรม บัณฑิตของมหาวิทยาลัยหลายคนได้ไปทำงานในหน่วยงานนานาชาติระดับโลก เช่น UN, WHO, ASEAN Secretariat, องค์การแพทย์ไร้พรมแดน และองค์กรชั้นนำต่างๆ 
.
ปัจจุบันเปิดสอนรวม 76 หลักสูตร ครอบคลุมทั้งด้าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์สุขภาพ และสังคมศาสตร์-มนุษยศาสตร์ เพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ที่หลากหลายและทันสมัย นอกจากนี้ยังมี 15 หลักสูตรสำหรับผู้เรียนทุกช่วงวัย และ 11 รายวิชาในระบบคลังเครดิต เปิดโอกาสให้ผู้เรียนเลือกเรียนได้ยืดหยุ่นยิ่งขึ้น พร้อม 2 หลักสูตรบัณฑิตพันธุ์ใหม่ อาทิ เทคโนโลยีดิจิทัลและการพัฒนา AI สำหรับองค์กรสมัยใหม่ ผู้เชี่ยวชาญการผลิตกาแฟคุณภาพสูง
.
พลิกโฉมเชียงราย
.
การเกิดขึ้นของมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงไม่เพียงเปลี่ยนแปลงพื้นที่จากป่ารกร้างสู่เมืองมหาวิทยาลัยในสวนพฤกษศาสตร์ที่สวยงาม แต่ยังเปลี่ยนแปลงทั้งโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจของพื้นที่
.
เชียงรายเปลี่ยนจากเมืองชายแดนธรรมดากลายเป็นศูนย์กลางการศึกษา วิจัย และสุขภาพของลุ่มน้ำโขง เศรษฐกิจโดยรอบมหาวิทยาลัยเติบโตจากการหมุนเวียนของนักศึกษา บุคลากร และกิจกรรมชุมชนกว่าหมื่นคนในแต่ละวัน
.
โรงพยาบาลศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ให้บริการสุขภาพแบบบูรณาการที่ผสานแพทย์แผนปัจจุบัน แผนไทย และแผนจีน เข้าด้วยกัน นอกจากการเป็นศูนย์บริการสุขภาพแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นศูนย์ฝึกปฏิบัติของนักศึกษาแพทย์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดยมีเป้าหมายให้เป็นศูนย์สุขภาพครบวงจรของภาคเหนือและลุ่มน้ำโขง
.
โครงการ "72 พรรษา 7,200 สุขภาพดี" เป็นความภาคภูมิใจในการให้บริการสุขภาพแก่ชุมชน โดยให้บริการตรวจสุขภาพพื้นฐานและเฉพาะทาง 7,200 รายต่อปี การรักษาปากแหว่งเพดานโหว่ การทำทันตกรรมรากฟัน และการตรวจมะเร็งเต้านมและปากมดลูก การให้บริการเหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้ป่วย แต่ยังเป็นการป้องกันและสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนในพื้นที่
.
การพัฒนาชุมชนและสังคม ครอบคลุมการพัฒนาครูมัธยมศึกษาในเชียงรายให้เป็น Learning Coach การจัดการขยะอย่างยั่งยืนผ่าน Application SMART PAYT การสร้างอาชีพหลังน้ำท่วม และการบริหารจัดการภัยพิบัติด้วยระบบ Incident Command System 
.
งานวิจัยสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
.
มหาวิทยาลัยได้สร้างผลงานวิจัยสะสม 5,121 ผลงาน และทรัพย์สินทางปัญญา 352 ผลงาน โดยในปี 2024 มีผลงานตีพิมพ์สูงสุด 558 ชิ้น ด้วยความมุ่งมั่นในการสร้างองค์ความรู้ใหม่และการพัฒนาคุณภาพงานวิจัยระดับนานาชาติอย่างต่อเนื่อง มหาวิทยาลัยมีห้องปฏิบัติการวิจัยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน 17 ห้อง และได้ผลักดันทรัพย์สินทางปัญญาไปสู่การใช้ประโยชน์ในภาคเอกชน 54 ผลงาน
.
การยกระดับงานวิจัยสู่เชิงพาณิชย์เป็นจุดเด่นสำคัญ โดยมหาวิทยาลัยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกับผู้ประกอบการในหลากหลายสาขา ได้แก่ ยา อาหารเสริม และเครื่องสำอาง ผ่านการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นผสานกับงานวิจัยขั้นสูง เพื่อแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน
.
ตัวอย่างผลงานเด่นที่สร้างผลกระทบทางสังคมอย่างชัดเจน เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์จากสับปะรดภูแล ให้กลายเป็นแผ่นกรอบ พายน์ชิโตะ กัมมี่น้ำส้มสายชู และน้ำส้มสายชูหมักจากตาสับปะรดภูแล ลิ้นจี่ และลำไย ที่สร้างมูลค่าผลตอบแทนทางสังคม (SROI) 2.57 เท่า การใช้เหงือกปลาหมอดอกขาวพัฒนาเครื่องสำอางธรรมชาติ ที่มี SROI 1.22 เท่า และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาที่มี SROI สูงถึง 3.28 เท่า
.
การยกระดับกาแฟอาราบิกาด้วยเทคโนโลยีชีวภาพเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการนำความรู้มาใช้เพื่อยกระดับผลผลิตและคุณภาพของผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น การแปลงภูมิปัญญาท้องถิ่นให้กลายเป็นองค์ความรู้ใหม่ที่โดดเด่น เช่น จิ้งจอกเก้าหาง การประเมินคุณค่าของวรรณกรรมพื้นบ้านเกี่ยวกับสุนัขเก้าหางในไทยและสุนัขจิ้งจอกเก้าหางในจีน รวมถึงอิทธิพลที่มีต่อสังคมและความสัมพันธ์ไทย-จีน สูตรตำรับเครื่องสำอางที่มีสารสกัดจากชาอัสสัมเป็นส่วนประกอบ วัสดุปิดแผลจากพอลิเมอร์ชีวภาพและเคอร์คูมิน 
.
โดยมีงานวิจัยตอบโจทย์เชิงพื้นที่ เช่น ระบบการจัดการขยะอัจฉริยะ โครงการแก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในภาคเหนือ และโครงการวิจัยแก้ไขปัญหาลุ่มน้ำโขงและแม่น้ำกก โครงการวิจัยและกิจกรรมศิลปะและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง
.
การก้าวสู่เวทีโลก
.
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงมีวิสัยทัศน์สู่มหาวิทยาลัยชั้นนำอาเซียน ภายใต้แผนพัฒนามหาวิทยาลัยฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2565-2569) มหาวิทยาลัยมีวิสัยทัศน์เป็น "มหาวิทยาลัยชั้นนำของอาเซียน ได้รับการยอมรับระดับนานาชาติ" ด้วยค่านิยมองค์กร MFU FIRST
.
ทั้งยังมุ่งมั่นต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านเป้าหมาย Net Zero Campus มีเป้าหมาย Carbon Neutrality และ Net Zero Greenhouse Gas Emissions ผ่านการปลูกต้นไม้และป่าชุมชน การบริหารจัดการขยะแบบ Zero Waste และการลดการใช้พลาสติก
.
โครงการ "MFU to the Moon Virtual Run" ที่รวมพลังบุคลากรเดินและวิ่งสะสมระยะทาง 384,400 กิโลเมตร เท่ากับระยะทางจากโลกไปยังดวงจันทร์ สะท้อนจิตวิญญาณการทำงานร่วมกันเพื่อเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่
.
การพัฒนาด้านกายภาพของมหาวิทยาลัยยังคงดำเนินต่อไปเพื่อรองรับการเติบโตและความต้องการที่เปลี่ยนแปลง ได้แก่ อาคารกิจกรรมนักศึกษาที่จะเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้นอกห้องเรียน อาคารพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่จะเป็นแหล่งเรียนรู้และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ทางเดิน M-Walkway ที่เชื่อมโยงพื้นที่ต่างๆ ภายในมหาวิทยาลัย และหอพักบุคลากรทางการแพทย์เพื่อรองรับการขยายบริการด้านสุขภาพ
.
มหาวิทยาลัยยังคงยึดมั่นในหลักยึด 4 ประการ ได้แก่ การปรับตัวในทุกด้านเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลง การยึดมั่นตามรอยพระราชปณิธาน "ปลูกป่า สร้างคน" การเป็นมหาวิทยาลัยแห่งโอกาส (Opportunity for All) และการรักษาจุดแข็งด้านความเป็นนานาชาติในภาษาอังกฤษ จีน และความเป็นสากล
.
ผศ.ดร.มัชฌิมา นราดิศร อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง ตอกย้ำว่า "27 ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้หยุดที่การเป็นสถาบันการศึกษาเท่านั้น แต่เราคือ 'พลังแห่งการเปลี่ยนแปลง' ที่ยึดมั่นในปรัชญา 'New – Different – Better' และพระราชปณิธาน 'ปลูกป่า สร้างคน' เพื่อขับเคลื่อนสังคมไทยและภูมิภาคสู่ความอยู่ที่ดีและอนาคตที่ยั่งยืน"
.
ด้วยความมุ่งมั่นในการเป็น "Driving Force for well-being and sustainable future" มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงจะเดินหน้าต่อไปเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจ จากท้องถิ่นสู่โลก เพื่ออนาคตที่ดีกว่าและยั่งยืนสำหรับทุกคน

  • 305 ครั้ง
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง